3 บัญชีม้า ตำรวจไซเบอร์เปิดปฏิบัติการ ดีเดย์จับบัญชีม้าบุกรวบ 3 ผู้ต้องหารับจ้างเปิดบัญชีให้กับแก๊งต้มตุ๋นหลอกเด็กนักเรียนชาย ม.3 ลงทุนซื้อสินค้าทางออนไลน์
เพื่อเก็งกำไร ได้ผลตอบแทนสูง แอบนำเงินแม่โอนไป 14,000 บาท ท้ายที่สุดโดนเท ตัดสินใจผูกคอตายสลด ครอบครัววอนขอความเป็นธรรม ก่อนนำไปสู่การออกหมายจับกลุ่มรับจ้างเปิดบัญชี 8 ราย หนึ่งในผู้ต้องหายอมรับสารภาพเป็นผู้รับโอนเงินจากคนเสียชีวิต แล้วโอนต่อเป็นทอดๆไปยังบัญชีสกุลเงินดิจิทัล เจ้าหน้าที่เตรียมออกหมายแดงไล่ล่าต้นตอใหญ่ที่มีฐานที่มั่นประเทศเพื่อนบ้าน
นักเรียน ม.3 โดนมิจฉาชีพหลอกลงทุน
จากเหตุนักเรียนชายชั้น ม.3 โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งใน อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกลงทุนซื้อสินค้า
วางขายทางออนไลน์เพื่อเก็งกำไรที่อ้างมีผลตอบแทนสูง ทำให้เด็กหลงเชื่อแอบนำเงินแม่รวม 14,000 บาท โอนให้กับผู้ร้ายกระทั่ง มารู้ทีหลังว่าถูกหลอก ก็เลยทวงเงินขอเงินคืน แต่ว่าไม่ได้ ตัดสินใจผูกคอตายลด หลังจากเกิดเหตุผู้ปกครองนำเรื่องเข้าร้องทุกข์ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ก่อนสั่งให้ตำรวจไซเบอร์ (บช.สอท.) ตั้งคณะทำงานเปิดปฏิบัติการดีเดย์ตัดบัญชีม้าแก๊งต้มตุ๋นที่เชื่อมโยงเครือข่ายประเทศเพื่อนบ้าน
3 บัญชีม้า โดนตำรวจไซเบอร์จับกุม
ถัดมาเวลา 07.00 น. วันที่ 11 ม.ค. พล.ต.ต.วริศร์สิริภ์ ลีละสิริ ผบก.สอท.2 บช.สอท.พร้อมทั้งพล.ต.ต.กานตพงศ์ ชัยรุ่งเรือง ผบก.ตอท.
พ.ต.อ.อภิรักษ์ จำปาศรี รรท.ผกก.2 บก.สอท.2 และ พ.ต.อ.มรกต แก้วสระคู ผู้กำกับการ1 บก.สอท.2 นำกำลังไป
จับ น.ส.นภาพร หอมจันทร์ อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาได้ที่ อำเภอท่าเรือ อยุธยา พร้อมของกลางโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ใช้กระทำความผิด หลังพบหลักฐานเกี่ยวกับเส้นทางการเงินในลักษณะรับจ้างเปิดบัญชีม้าให้กับขบวนการดังกล่าว ตรวจสอบแล้วก็พบว่าเงินของเด็กนักเรียนคนดังกล่าวโอนไปยังบัญชีของผู้ต้องหารายนี้ก่อนถูกโอนต่อไปยังผู้ต้องหาคนอื่นๆในขบวนการ อีก 3 ราย
ต่อจากนั้นช่วงบ่าย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. มอบหมายให้ พล.ต.ต.วิวัฒน์
คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. สอบปากคำ น.ส.นภาพร เพิ่มเติมอีก ใช้เวลากว่า 2 ชม. แล้ว พล.ต.ต.วิวัฒน์
เผยออกมาว่า หลังจากเกิดเหตุเด็กนักเรียนชายผูกคอฆ่าตัวตาย มูลเหตุมาจากถูกหลอกให้ลงทุนซื้อสินค้าทางออนไลน์และครอบครัวผู้เสียชีวิตได้มาวอนความเป็นธรรมให้ บช.สอท.เข้าคลี่คลายคดี จนกระทั่งชุดสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลจังหวัดนนทบุรีออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการที่เป็นบัญชีม้า 8 รายในฐานความผิดร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันโดยทุจริตหรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน
รอง ผบช.สอท.กล่าวอีกว่า
ล่าสุดช่วงเช้าที่ผ่านมาตำรวจบุกเข้าจับผู้ร่วมขบวนการรับจ้างเปิดบัญชีม้าให้กับเจ้าของเพจได้ 3 ราย ประกอบด้วยน.ส.นภาพร
หอมจันทร์ อายุ 33 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรีที่ 12/2566 ลงวันที่ 10 มกราคม2566 จับได้ที่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา, นายสมบูรณ์ พงษ์เทเวช อายุ 55 ปี
ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรีที่ 17/2566 ลงวันที่ 10 ม.ค.2566 จับได้ที่ จ.นครสวรรค์ และ น.ส.พบพร วงศ์แข อายุ 28 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรีที่ 14/2566 ลงวันที่ 10 มกราคม2566 จับได้ที่ จังหวัดปราจีนบุรี
3 บัญชีม้า ให้การรับสารภาพว่าโดนหลอกมาอีกที
จากการสืบสวน นางสาวนภาพรหนึ่งในผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้เปิดบัญชีม้าที่เกี่ยวเนื่องกับคดีดังกล่าว โดยได้รับการชักจูงให้เปิดบัญชีในราคา 100 บาท จำนวน 2 บัญชี ตรวจสอบประวัติพบว่าผู้ต้องหาเคยถูกดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืนเมื่อปี 2559 คดีความผิด พ.ร.บ.การพนัน เมื่อปี 2561-2563 อีกทั้งเมื่อตรวจสอบบัญชีที่ตำรวจตรวจยึดได้พบว่ามีการโอนเข้าออกไปยังเว็บพนันออนไลน์ และผู้ต้องหาก็ยอมรับว่าเล่นพนันออนไลน์ทุกวัน นอกเหนือจากนี้ ผู้ต้องหาบอกด้วยว่านายจ้างยังออกอุบายหลอกล่อว่าจะให้ส่วนแบ่งกับบัญชีม้าด้วย ส่วนจะได้จริงหรือไม่อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมอีกครั้ง
พล.ต.ต.วิวัฒน์กล่าวอีกว่า
ดูจากแผนประทุษกรรมของคนร้าย เจ้าหน้าที่สามารถแยกระดับของบัญชีม้าออกเป็น 8 ระดับ ในจำนวนนี้มีเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี ร่วมด้วย สอท.ได้รับความร่วมมือจากสถาบันการเงินตรวจสอบเส้นทางการ
โอนเงิน หากว่ามิจฉาชีพใช้แนวทางยักย้ายถ่ายเทภายในช่วงเวลาที่รวดเร็วจากบัญชีที่หนึ่งไปยังบัญชีที่ห้าไม่ถึง 39 วินาทีก่อนที่จะโอนไปยังบัญชีของพ่อค้าเงินสกุลดิจิทัล ตอนนี้เจ้าหน้าที่ทราบโครงข่ายขบวนการดังกล่าวแล้ว แม้ว่าไอพีแอดเดรสของผู้ร้ายการตั้งถิ่นฐานอยู่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน แต่เราได้รับความร่วมมือจากผู้ให้บริการทาง Instagram Facebook และ LINE สำหรับเพื่อการดำเนินการตรวจสอบ ถึงแม้ว่าคนร้ายจะอยู่ประเทศเพื่อนบ้านก็สามารถออกหมายแดงเพื่อติดตามจับกุมตัวได้ อย่างไรก็ดี คดีนี้เจ้าหน้าที่สามารถอายัดเงินได้ทันท่วงทีได้ 5 หมื่นบาท
“คดีดังกล่าวตำรวจดำเนินการจับกุมอย่างเต็มความสามารถก่อนขยายผลกวาดล้างทั้งขบวนการไปถึงตัวการใหญ่ไม่ใช่จับแค่บัญชีม้า อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าในส่วนของตัวการใหญ่ที่เป็นเจ้าของ บัญชี Instagram มีความเชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ มีการปกปิดตัวตนโปรไฟล์เป็นอย่างดี แต่เจ้าหน้าที่ได้พิสูจน์ทราบตัวบุคคลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าไม่เกินสองวันจะสามารถออกหมายจับและติดตามจับกุมตัวได้ภายในสัปดาห์นี้แน่นอน” รอง ผบช.สอท.กล่าว